ทำไมถึงต้องจ้าง Outsourcing ?
เคยสงสัยกันบ้างไหมว่า Outsourcing คืออะไร? ซึ่งหลายคนคงอาจจะเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เข้าใจและรู้ซึ้งถึงความหมายได้อย่างชัดเจนเท่าที่ควร ว่าบริษัท Outsource นั้นเขาทำงานกันอย่างไร มีความสำคัญและมีประโยชน์อย่างไรต่อธุรกิจบ้าง?
โดยแนวโน้มการเลือกใช้ "เอาท์ซอร์สซิ่ง" ในปัจจุบัน เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยของการทำธุรกิจในยุคนี้ แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเลือกใช้ Outsource คุณจะต้องคำนึงและพิจารณาก่อนว่าจะเป็นการจ้างเพียงครั้งเดียวหรือมีระยะเวลาต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการจ้างแบบไหนก็ล้วนส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจของคุณด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้น คุณจะต้องพิจารณาให้ดีก่อนว่าเอาท์ซอร์สนั้นมีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของงานหรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้นแล้วธุรกิจของคุณก็อาจจะประสบกับความล้มเหลวหรือทำให้งานสะดุดเสียหายได้
"เอาท์ซอร์สซิ่ง" คืออะไร? และมีประโยชน์อย่างไรต่อธุรกิจของคุณ
ในบทความนี้เรามาทำความรู้จักกับ Outsourcing กันดีกว่าว่ามันคืออะไร? และมีประโยชน์อย่างไรต่อธุรกิจของคุณกันบ้างนะ ไปอ่านกันเลย!
Outsourcing คือการจ้างบุคคลากรหรือองค์กรภายนอกที่มีความรู้ความสามารถและความเชี่ยวชาญในเรื่องต่างๆ เป็นการเฉพาะ เข้ามาทำงานนั้นๆ แทนให้ทั้งหมดหรืออาจจะเป็นแค่เพียงในบางส่วน โดยที่สำคัญคือจะต้องไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานในภาพรวมขององค์กรภายในด้วย ซึ่งอาจจะว่าจ้างรับเป็นชิ้นๆ งานหรือเซ็นสัญญาว่าจ้างกันเป็นระยะเวลาแบบรายเดือนหรือรายปีก็สามารถทำได้ตามแต่ที่จะตกลงกันระหว่างผู้ประกอบการกับผู้ที่รับจ้าง ซึ่งปัจจุบันระบบการทำงานในลักษณะของ Outsource กำลังได้รับความนิยมในหมู่ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กหรือที่เรียกว่า SME ไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก โดยเหตุผลหลักในการจ้างบุคคลภายนอกเข้ามาก็เพราะว่าภายในองค์กรอาจจะมีทรัพยากรไม่เพียงพอ ทั้งในเรื่องของทักษะและปริมาณหรืออาจจะเป็นการจ้างเพราะประหยัดค่าใช้จ่ายก็ได้
ซึ่งประโยชน์และข้อดีของการจ้างบุคคลภายนอก (Outsourcing) คือ การลดค่าใช้จ่ายให้กับองค์กร, ลดความซับซ้อนขององค์กร, ความง่ายในการเริ่มทำโปรเจคใหม่, การหาพนักงานได้ในเวลาที่เร็วกว่าการจ้างพนักงานประจำ และการหาทักษะที่ภายในองค์กรไม่มี
ลดค่าใช้จ่ายให้กับองค์กร
การที่ผู้ประกอบการว่าจ้างบุคคลากรที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องต่างๆ เป็นการเฉพาะจากภายนอกเข้ามาทำงานนั้นๆ แทน จะช่วยให้องค์กรสามารถประหยัดงบประมาณในส่วนดังกล่าวได้เป็นอย่างดี เมื่อเทียบกับการจัดตั้งแผนกขึ้นมาใหม่อย่างเต็มรูปแบบ ที่จะต้องเสียทั้งค่าจ้างพนักงานประจำ รวมไปถึงต้องมีสวัสดิการต่างๆ ให้อีกด้วย
ลดความซับซ้อนขององค์กร
องค์กรที่มีพนักงานประจำเยอะก็จะมีความยุ่งยากในการบริหารเยอะเช่นกัน ยิ่งพนักงานเยอะก็จะยิ่งมีปัญหาทางด้านการสื่อสารและความเร็วในการขับเคลื่อนองค์กร เพราะฉะนั้นการจ้างบุคคลภายนอก (Outsource) ก็เป็นการตัดภาระเรื่องความซับซ้อนในโครงสร้างขององค์กรไปได้ในระดับหนึ่ง ลดทั้งภาระของฝ่ายบุคคลและภาระของผู้บริหาร ผู้จัดการองค์กร
ความง่ายในการเริ่มทำโปรเจคใหม่
อีกปัญหาหนึ่งของการจ้างพนักงานประจำก็คือการรอ หากองค์กรจ้างเด็กจบใหม่ก็ต้องรอเรียนจบ หรือหากจ้างพนักงานจากองค์กรอื่นมาก็ต้องรอพนักงานหมดสัญญาทำงานกับองค์กรเก่าก่อน ในกรณีนี้หากเป็นงานเร่งที่จะต้องรีบทำให้จบ ต้องการบุคคลากรเพื่อมาทำงานทันที การจ้างบุคคลภายนอกก็เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
สามารถหาพนักงานได้ในเวลาอันสั้น
กระบวนการจ้างพนักงานนั้นมีหลายขั้นตอนมาก ตั้งแต่การลงประกาศรับสมัครงาน การสัมภาษณ์งาน และกระบวนการตัดสินใจต่างๆ ทั้งจากฝ่ายของตัวองค์กรเองและจากฝ่ายของผู้ที่เข้ามาสมัครงาน ถ้าหากองค์กรมีกระบวนการจ้างบุคคลภายนอกที่ชัดเจนอยู่แล้ว หรือมีบริษัทตัวกลางช่วยจัดหาบุคคลภายนอกให้ ก็จะสามารถจ้างบุคคลภายนอกเข้ามาได้เร็วขึ้น
บุคคลภายนอกมีทักษะที่ภายในองค์กรไม่มี
หลายครั้งที่องค์กรต้องการที่จะทำอะไรใหม่ๆ แต่ปัญหาก็คือบุคคลากรภายในองค์กรไม่มีความรู้ความสามารถมากพอ เพราะงานบางชนิดก็ต้องใช้ทักษะเฉพาะทางเป็นอย่างมาก ยิ่งเป็นงานที่ต้องการทักษะที่หายากด้วยแล้ว บางครั้งการจ้างบุคคลภายนอกก็จะทำให้งานเสร็จได้เร็วและมีประสิทธภาพมากกว่า